วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560

วันพุธที่ 8 มีนาคม พ.ศ. 2560
                                                       
                                                            บันทึกการเรียนครั้งที่ 7
นำเสนอคำคม
นางสาวปัณฑิตา คล้ายสิงห์




นางสาวชนากานต์  แสนสุข




นางสาวสุจิตรา มาวงศ์

นางสาวภัทรวรรณ หนูแก้ว




นางสาวศุทธินี โนนริบูรณ์



เพื่อนๆนำเสนองานวิจัย
กลุ่มที่ 1  วิจัยเรื่อง  ความเป็นผู้บริหารมือชีพของมหาบัณฑิต 
วิจัยเรื่องความเป็นผู้บริหารมือชีพของมหาบัณฑิต
สาขา  :  วิชาการบริหารสถานศึกษา มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
การศึกษาระดับ  : ปริญญาการศึกษามหาบัณฑิต
มหาวิทยาลัย  :  มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ
ผู้วิจัย  :  อัญชลี พิมพ์พจน์
ปีการศึกษา :  2553
ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย

        ประเด็นที่ 1 ผลจากการวิจัยทำให้ทราบความคิดเห็นของมหาบัณฑิต และผู้ร่วมงานของมหาบัณฑิตในความเป็นผู้บริหารมืออาชีพของมหาบัณฑิตสาขาวิชาการบริหารการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ในปีการศึกษา 2549 – 2551 ที่ดำรงตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการสถานศึกษา รองผู้อำนวยการสถานศึกษา ที่ปฏิบัติงานในสถานศึกษาของรัฐและเอกชน
        ประเด็นที่ 2 เพื่อนำผลที่ได้ไปใช้เป็นแนวทางในการปรับปรุงหรือพัฒนาหลักสูตรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้นรวมถึงพัฒนานิสิตต่อไปในอนาคต ทั้ง 9 ด้าน คือ ด้านการบริหารงานวิชาการ ด้านการบริหารงบประมาณ ด้านการบริหารงานบุคคล ด้านการประกันคุณภาพการศึกษา ด้านการบริหารการประชาสัมพันธ์และความสัมพันธ์ชุมชน  ด้านการบริหารกิจการนักเรียน ด้านการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านวิจัยทางการศึกษา  ด้านคุณธรรมและจริยธรรม
        ประเด็นที่ 3 มหาบัณทิตให้ทราบจุดอ่อนจุดแข็ง และใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาตนเอง เพื่อให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
  1. เพื่อศึกษาความเป็นผู้บริหารมืออาชีพของมหาบัณฑิต สาขาวิชาการบริหารการศึกษา  คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ใน 9 ด้าน คือ ด้านการบริหารงานวิชาการ ด้านการบริหารงบประมาณ ด้านการบริหารงานบุคคล ด้านการประกันคุณภาพการศึกษา ด้านการบริหารการประชาสัมพันธ์และความสัมพันธ์ชุมชน  ด้านการบริหารกิจการนักเรียน ด้านการบริหารจัดการเทคโนโลยีสารสนเทศ ด้านวิจัยทางการศึกษา  ด้านคุณธรรมและจริยธรรม ตามความคิดเห็นของมหาบัณฑิตและผู้ร่วมงานขิงมหาบัณฑิต
  2. เพื่อเปรียบเทียบความคิดเห็นของมหาบัณฑิตและผู้ร่วมงานของมหาบัณฑิตในความเป็นผู้บริหารมืออาชีพ ของมหาบัณฑิตสาขาวิชาการบริหารการศึกษา   มหาลัยศรีนครินทรวิโรฒ จำแนกตามสถานภาพ หน่วยงานที่สังกัดและปีที่สำเร็จการศึกษา
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1.มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์การใช้ศาสตร์และศิลป์ในการบริหารการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลสอดคล้องกับบริบททางวัฒนธรรมและระบบคุณค่าแห่งสังคมไทยโดยรวม ท้องถิ่นและชุมชน
2.  เป็นนักบริหารมืออาชีพที่มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ ก้าวทันมิติแห่งการเปลี่ยนแปลง
3.  มีความรู้ความสามารถในการศึกษาค้นคว้าและวิจัย เพื่อประโยชน์ต่อการบริหารการศึกษาให้บรรลุผล และมีความรู้ความสามารถในการศึกษาค้นคว้าสามารถนําเอาทฤษฎีหรือผลการวิจัยไปประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาหรือพัฒนาการบริหารการศึกษา
4.  มีความสามารถในการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการทํางาน
5.  มีเจตคติที่ดีต่อวิชาชีพ และมีคุณธรรมจริยธรรม




กลุ่มที่ 2 งานวิจัยเรื่อง การศึกษาสมรรถนะการบริหารด้านวิชาการระดับปฐมวัยของผู้บริหารสถาน
งานวิจัย : เรื่องการศึกษาสมรรถนะการบริหารด้านวิชาการระดับปฐมวัยของผู้บริหารสถานศึกษา ในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตภาษีเจริญ
การศึกษาระดับ  :   ปริญญาโท การศึกษามหาบัณฑิต (กศ.ม) การบริหารการศึกษา จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ กรุงเทพมหานคร
ผู้วิจัย :  นางระเบียบ เชี่ยวชาญ
ปีการศึกษา  : 2550

ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย
ประเด็นที่ 1 การศึกษาเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการพัฒนาคน ทั้งนี้เพราะความสามารถและศักยภาพของคนจะนำไปสู่การพัฒนาประเทศชาติให้มีความเจริญ
ประเด็นที่ 2 เด็กปฐมวัยเป็นวัยที่สำคัญที่สุดของการพัฒนา ทั้งด้านร่างกาย สติปัญญา อารมณ์ สังคมและบุคลิกภาพ เป็นวัยที่เรียกว่าช่วงแห่งการเจริญเติบโตงอกงามสำหรับชีวิต และยังเป็นช่วงวัยที่เกิดการเรียนรู้ได้มากที่สุดในชีวิต
ประเด็นที่ 3การจัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่เหมาะสม เป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมพัฒนาการของเด็กสามารถช่วยให้เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์และเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพในอนาคต
ประเด็นที่ 4 เด็กเปรียบเสมือนผ้าขาว เด็กทุกคนมีความสามารถด้านการเรียนรู้และด้านสมอง เท่าเทียมกัน องค์ประกอบของสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเด็ก

ประเด็นที่ 5 การจัดการศึกษาปฐมวัยจำเป็นต้องจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับจุดมุ่งหมายของหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ในทำนองเดียวกันต้องจัดให้สอดคล้องกับความต้องการของผู้ปกครอง ผู้บริหารสถานศึกษาซึ่งเป็นบุคลากรหลักและเป็นผู้นำในการบริหาร
วัตถุประสงค์การวิจัย
1. เพื่อศึกษาสมรรถนะการบริหารงานวิชาการระดับปฐมวัยของผู้บริหารสถานศึกษา ตามความคิดเห็นของครูในโรงเรียนประถมศึกษา ในสังกัดกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตภาษีเจริญ ในด้านการจัดการการเรียนรู้ การพัฒนาหลักสูตร การนิเทศ และการส่งเสริมการวิจัย
  2. เพื่อเปรียบเทียบสมรรถนะการบริหารงานวิชาการระดับปฐมวัยของผู้บริหารสถานศึกษาตามความคิดเห็นของครูในโรงเรียนประถมศึกษา ในสังกัดกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตภาษีเจริญ ในด้านการจัดการการเรียนรู้ การพัฒนาหลักสูตร การนิเทศ และการส่งเสริมการวิจัยจำแนกตามตัวแปรประสบการณ์สอนและขนาดของโรงเรียน
3. เพื่อรวบรวมข้อเสนอแนะเกี่ยวกับสมรรถนะการบริหารงานวิชาการระดับปฐมวัยของผู้บริหารสถาศึกษาในโรงเรียนประถมศึกษา สังกัดกรุงเทพมหานคร สำนักงานเขตภาษีเจริญ




กลุ่มที่3 งานวิจัย  เรื่องการบริหารแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีมของผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนระดับปฐมวัย
งานวิจัย : เรื่อง การบริหารแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีมของผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนระดับปฐมวัย
การศึกษา : ระดับ ปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิต
มหาวิทยาลัย : ศิลปกร
ผู้วิจัย : นางสาวกัญวัญญ์  ธารีบุญ
ปีการศึกษา : 2557
ความสำคัญและความเป็นมาของปัญหาการวิจัย
ประเด็นที่ 1ในปัจจุบันผู้ปกครองไม่มีเวลาดูแลบุตรของตนได้มากพอ จึงก่อให้เกิดปัญหาหลายด้าน โรงเรียนที่จัดการศึกษาในระดับปฐมวัยหรือโรงเรียนอนุบาลจึงจำเป็นกับสังคมปัจจุบัน และจำเป็นต้องจัดการศึกษาให้ได้มาตรฐานและมีคุณภาพ
ประเด็นที่ 2 ในการจัดการศึกษาเพื่อพัฒนาคนให้มีคุณภาพ มีความจำเป็นอย่างยิ่ง ภาคเอกชนมีบทบาทสำคัญในการที่จะบริหารจัดการให้มีคุณภาพ
ประเด็นที่ 3 นโยบายการศึกษาของรัฐที่ไม่ชัดเจนแน่นอนและบทบาทของหน่วยงานภาครัฐที่มุ่งควบคุมมากกว่าส่งเสริม กฎหมาย กฎระเบียบต่างๆ
ประเด็นที่ 4 ในการบริหารงานสถานศึกษาเอกชนมีปัญหาด้านรายได้ที่ไม่เพียงพอต่อรายจ่ายที่เกิดขึ้นการวางแผนพัฒนาและการเกิดผลสัมฤทธิ์ผลของเด็กสูงกว่าความเป็นจริงการได้รับ การช่วยจากรัฐบาลไม่ทั่วถึง ไม่เท่าเทียมกัน การมีมีส่วนร่วม การบริหารการศึกษา
ประเด็นที่ 5 ผู้บริหารสถานศึกษาเป็นกลไกลสำคัญสำคัญในการสร้างเครือข่ายสร้างทีมงานขับเคลื่อนสถานศึกษาให้ไปในทิศทางที่ต้องการ ผู้บริหารมีหน้าที่ทำให้ทุกคนมีความรู้สึกที่เป็นส่วนหนึ่งของชุมชนในสถานศึกษาสร้างความสัมพันธ์แบบพึ่งพาอาศัยซึ่งกันและกันเป็นการบริหารแบบมีส่วนร่วม(Participative Management)
วัตถุประสงค์ของการวิจัย
1. เพื่อทราบการบริหารแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนระดับปฐมวัย
2. เพื่อทราบประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีมของผู้บริหารศาสตร์ศึกษาเอกชนระดับปฐมวัย
3. เพื่อทราบการบริหารแบบมีส่วนร่วมที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานเป็นทีมของผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนระดับปฐมวัย
สรุปผลการวิจัย
จากการวิเคราะห์ข้อมูลการวิจัย ผู้วิจัยสามารถสรุปผลการวิจัยตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดังนี้
1.องค์ประกอบการบริหารแบบมีส่วนร่วมของผู้บริหารสถานศึกษาเอกชนระดับปฐมวัยมีจำนวน 9
  องค์ประกอบ คือ
  องค์ประกอบที่ 1 ความผูกพันต่อองค์การ
  องค์ประกอบที่ 2 การพัฒนาทีมงาน
  องค์ประกอบที่ 3 การกระจายอำนาจ
  องค์ประกอบที่ 4 ความไว้วางใจกัน
  องค์ประกอบที่ 5 การให้ข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์
  องค์ประกอบที่ 6 การตัดสินใจร่วมกัน
  องค์ประกอบที่ 7 การร่วมกำหนดวัตถุประสงค์และเป้าหมาย  
  องค์ประกอบที่ 8 ความเป็นอิสระในการบริหารองค์การ 
  องค์ประกอบที่ 9 เข้าใจธรรมชาติขององค์การ


การประเมิน

ตัวเอง        
- เข้าเรียนตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย ตั้งใจเรียน ให้ความร่วมมือในการทำกิจกรรมภายในห้องเรียน

เพื่อน       

 -เพื่อนแต่งกายสุภาพเรียบร้อย  เข้าเรียนตรงต่อเวลา ตั้งใจเรียน ร่วมทำกิจกรรมภายในห้องเรียน

อาจารย์ผู้สอน

  -เข้าสอนตรงต่อเวลา แต่งกายสุภาพเรียบร้อย อธิเนื้อหาได้อย่างเข้าใจ

ห้องเรียน
  -ห้องเรียนสะอาด อุปกรณ์พร้อมใช้งาน


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น